เช้งเม้ง '52+วันเกิดน้อง

เขียนก่อนเดี๋ยวลืม Pretty URLs ภาษาไทยมาแล้ว
วันที่ 4-5-6 ไปเช้งเม้งมาครับ

สำหรับกำหนดการนี้มีมานานแล้ว แต่เนื่องจากเป็นคนขี้เกียจ สุดท้ายก็จัดกระเป๋าเช้าวันที่ 4 นั้นละ  แล้วก็ออกเดินทางตอนเที่ยง แวะกินก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นจำชื่อร้านไม่ได้แล้ว พุทธมณฑลสาย 3, ต้มยำมะนาวใบตำลึงนี้ ใช้ได้เลยครับ ร้านนี้ให้น้อยไปหน่อย แต่ถ้าพูดถึงความสะอาด และความอร่อยผมว่าค่อยข้างคุ้มค่าละ

เสร็จแล้วออกเดินทางโดยใช้เส้นทางกาจนาภิเษกตะวันตก(9) พหลโยธิน(1)ถ้าจำไม่ผิด ระหว่างทางก่อนเข้าสระบุรี เจอม๊อบ(อ๋อ ลืมไปเค้าให้ใช้คำว่า protesters อิอิ)ปิดถนนด้วย ทำให้เสียเวลาค่อยข้างมากที่จุดนี้ ก่อนจะเข้ามิตรภาพ(3)ครับ พ่อขับซะ 120-140 เดี๋ยวนี้ทางหลวง 24 (ไม่รู้ชื่อ) เป็น 4 เลนซะแล้ว ทำให้การไปมาสะดวก แต่ช่วงนางรอง-เข้าเขตสุรินทร์ รู้สึกช่วงนี้จะยังเป็น 2 เลนอยู่  แน่นอน ผ่านนางรองก็ต้องขาหมูจิ๋งนำ สุดยอดสุดแล้ว ซื้อไปขาหนึ่ง+คากิอีก เบ็ดเสร็จ 300 บาทครับ

ถึงสุรินทร์ก็เกือบจะทุ่มแล้ว ตามธรรมเนียม(ที่บ้าน) ก็ต้องไปเยี่ยมซาแปะแปลว่า "ลุงคนที่สาม" ตามหลักคนจีนแล้ว ญาติทางพ่อต้องให้ความสำคัญด้วยการบอกว่าเค้าเป็นคนที่เท่าไรด้วยครับ 1ก็ตั่ว 2ก็ยี่ 3ก็ซา 4สี่ ... (บ้านผมแต้จิ๋ว) ซึ่งอันนี้ก็อาจจะมีเพี้ยนๆตามคำหลังซึ่งจะบอกถึงความสำพันธ์นั้นๆ "แปะ"ก็ลุง "โก"ก็พี่สาวหรือน้องสาวพ่อ ส่วนสามีของโก จะเรียกว่า "เตี๋ย" (เสียงสูงกว่าเตี่ยของพ่อ) หรือว่าจะเรียกว่า "อาเตี๋ย" ก็ได้ครับ, ส่วนทางแม่ ผู้หญิงเรียก "อี๊" ผู้ชายเรียก "กู๋"  (ยาวเชียว อันนี้ก็แล้วแต่บ้าน แล้วแต่ว่าเป็นคนจีนภูมิภาคไหนด้วยนะครับ)

ซาแปะเปิดร้านขายของชำอยู่ที่ซอย "โดนไข" อ่านชื่อซอยนี้แต่เด็กก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นชื่อนี้ มงคลตรงไหน = =  ตอนเย็นวันนั้นก็ไปรับประทานอาหารตอนเย็นที่ร้านห่างจากตัวเมืองมาก และเข้าไปในซอยลึกๆ แต่ก็มีคนเข้าไปกินแหะ ผมก็สงสัยเหมือนกันว่าอาเตี๋ยรู้จักร้านนี้ได้ยังไง แต่อาหารอร่อยครับ ยุงเยอะไปหน่อย  อาหารวันนั้นส่วนมากเป็นปลาแม่น้ำ ซึ่งจำเมนูอาหารไม่ได้แล้วครับ [อีกยาว ใครไม่อ่านไม่ต้องคลิกต่อนะครับ แหะๆ]

ดึกวันนั้นก็นอนบ้านอาเตี๋ยของไซ๊โก(น้องสาวพ่อคนสุดท้อง) ที่บ้านก็มีเฮียๆ ที่รู้จักกันแต่เด็กๆ ไม่ได้เจอเป็นปีแล้ว นั่งเล่นเกมส์ดูทีวี ฯลฯ ก่อนจะเข้านอนตอนตีหนึ่งกว่าๆ

วันรุ่งขึ้นคือวันที่ต้องไหว้ฮวงจุ้ย (หมายถึงที่ฝังศพของบรรพบุรุษ)  ซึ่งเืมื่อพวกเราไปถึง อ้าว...ทำไมคนน้อยงี้ เหอะๆสงสัยจะผิดวันจริงๆ  เราไปถึงซาแปะซาอึ้มและเจ๊ๆเฮียๆ ก็เตรียมสถานที่ไว้แล้ว ทำไงได้คนมันตื่นสายขอโทษนะครับ แหะๆ  เริ่มไหว้กัน ปกติๆแล้วจะไหว้ก็จะให้คนใกล้ชิดไหว้ก่อน อาจจะให้ลูกชายไหว้ก่อน แล้วลูกสาวค่อยไหว้ อันนี้แล้วแต่บ้านครับ แต่ผู้อวุโสต้องไหว้ก่อนเสมอๆ  ระหว่างรอธูปดับก็จัดการกับไก่ย่างตลาดเมืองศรีสะเกษนำมาโดยตั่วโก แซ่บอย่าบอกใคร  เมื่อธูปหมดก็จัดการกับอาหารจนเกลี้ยง  เสร็จแล้วก็กลับไปนั่งพักที่บ้านซาแปะซะหน่อย ก่อนจะเดินทางไปบ้านเก่าคุณพ่อ

บ้านเก่าคุณพ่อนั้น ผมจำไม่ได้แม้แต่ตำบลหรืออำเภอ  ชื่อหมู่บ้านก็จำไม่ได้แล้ว(ผมนะ พ่อต้องจำได้สิ งั้นจะไปยังไง)ตอนนั้นพ่อบอกว่ายังเด็กๆ ไม่ค่อยรู้เรื่อง หลังจากนั้นก็ย้ายเข้าอำเภอปราสาทแล้ว  ระหว่างทางก็ให้ยี่โกกับป๋า ได้ระลึกความหลังกันไปเรื่อยๆ เราก็นั่งฟังผู้ใหญ่คุยกัน ปนดูทางไปเรื่อยๆเพราะสนใจ  พ่อเล่าว่าเป็นแค่บ้านไม้หลังเล็กๆ อาก๋ง(แปลว่าปู่/ตา ณที่นี้แน่นอนคือปู่) รับจ้างทำงานเรื่อยๆ หลังจากย้ายเข้าอำเภอ ก็ทำกิจการก๋วยเตี๋ยว, ซึ่งที่ไปเยี่ยมนี้ แค่ไปเยี่ยมคนที่อาก๋งและอาม่ารู้จัก  บ้านเก่าที่เคยอยู่นั้น แน่นอนถูกรี้อไปแล้ว  ตอนนั้นเป็นดินแดงๆ แต่ตอนนี้เป็นราดยางไปหมด  ฟังแล้วก็นึกถึงรุ่นลูกของเราเหมือนกัน ว่าเราจะเล่าแบบไหนนะ น่าคิดๆ

พอตกเย็น ไปที่ห้วยเสน่ง  พอมีคนท้า "คนกรุงเทพเคยว่ายน้ำคลองเปล่าาา" เอาเลย โดดๆ น้ำเย็นมาก ก็ว่าทำไมถึงเล่นน้ำกัน  บริเวณนั้นแต่ก่อนเคยที่ตำหนักของสมเด็จย่า หลังจากสมเด็จย่าสิ้นพระชนม์ ก็เป็นที่ประทับของราชวงศ์เมื่อเสด็จผ่านมา  เล่นกันไปได้สักพักฝนมาแล้วสิ กินก็ไม่ค่อยได้กินสุดท้ายต้องขึ้นมา ขึ้นได้ไม่นานคันมาก... รีบกลับบ้านอาบน้ำดีกว่า  แต่คนที่ลงไปเล่นน้ำด้วยก็หกคน ล้วนอยู่บ้านเดียวกัน  แย่กันอาบแทบแย่  เสร็จแล้วก็ดูทีวี เล่น DOKUPON เกมสมัยเด็กๆที่ลืมเลือนกับเฮียๆผ่าน Emulator เอา  นอนตีสองแน่ะ

วันรุ่งขึ้นก็กลับกรุงเทพฯ คงไม่ต้องอธิบายแหะๆ ออกเดินทางสี่โมง(เย็น)ครึ่ง  ถึงกรุงเทพฯราวๆสามทุ่ม  ถือว่าเร็วมากแหะ แล้วครั้งนี้น้องจูนกินน้ำมันไป 12 กิโล/ลิตร  สถิติใหม่ของพ่อลูก ฮ่าๆ

เมื่อวานนี้ (8/4) วันคล้ายวันเกิดน้องสาว ครบรอบ 10 ปีแล้ว... เห็นตั้งแต่ตัวเล็กๆ คอยดุด่า สั่งสอนมาตลอด (อันนี้หน้าที่หลัก เหอะๆ ปกติหน้าที่เล่นกับน้องยกให้ไอ้แม็ก น้องชายฝาแฝดมันจัดการ) เดี๋ยวนี้โตเป็นสาวแล้วแหะ  ก็เลยไปเลี้ยงกันที่ "อาหารป่า ครัวบ้านไทร" พุทธมณฑลสาย 2  อาหารที่นี้อร่อยมากกกกก

ตอนแรกที่สั่ง, พนักงานก็ยิ้มๆประมาณว่า มากันแค่ 4 คน+เด็กหนึ่ง จะกินกันหมดเรอะ, ขาหมูทอดหนึ่งขา ต้มยำรวมมิตร ปลาเนื้ออ่อน กุ้งเผาครึ่งกิโล ปลาลวกจิ้ม, แต่พนักงานก็คงตกใจเมื่อพวกเราเรียกเช็กบิลหลังจากสั่งประมาณ 40 นาที - -"  ราคารวมน้ำโค๊กและน้ำแข็ง ข้าวเปล่าหนึ่งโถแล้ว ประมาณ 800 กว่าบาท  เรียกว่าคุ้มค่า อาหารอร่อย บรรยากาศโอเคครับ บริการรวดเร็ว ที่สำคัญ ไม่โกง(เคยเจอสวนอาหารแถวบ้านร้านหนึ่งโกง น้ำแข็งบ้าอะไรเยอะแยะ ราคาก็แพง ถามแล้วก็ยิ้ม เจริญ! ระวังกันไว้ด้วยครับ ขอเช็คราคาทุกครั้งไม่เสียหาย) กลับบ้านมาปักเค้กรุปเต่าทองของ S&P กันต่อ, ร้อง HBD เป็นธรรมเนียม ก่อนจะกินเค้กกัน